แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมภารตะ สู่ผลงานทรงออกแบบ “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”

ออกแบบ

แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมภารตะ สู่ผลงานทรงออกแบบ “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”

“การออกแบบผลงานในทุกครั้ง ก็เหมือนเป็นการทดลองทางกระบวนการความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นขั้นตอน สำหรับครั้งนี้ความแตกต่างหลากหลายในวัฒนธรรมของอินเดีย เปิดโอกาสให้เราได้ใช้ลูกเล่นกับวัสดุนานาชนิด บนรูปทรงและโครงสร้างการตัดเย็บที่ช่วยเพิ่มความสง่างาม ให้แก่ผู้สวมใส่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย” …สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมี พระดำรัสเกี่ยวกับการทำงานในคอลเลกชันนี้ พร้อมทรงเน้นย้ำว่า “คอลเลกชันนี้เป็นเหมือนการระดมงานฝีมือที่มีความหลากหลายอย่างที่สุด ทั้งงานจับเดรป งานถักลายแบบมาคราเม นอกจากนั้น ยังมีการใช้เทคนิคงานปักที่สนุก มีการจัดสัดส่วนขององค์ประกอบต่างๆได้อย่างลงตัวที่สุด เท่าที่เคยทำมาในงานเสื้อผ้าสำเร็จรูป”

เมื่อความหรูหราตระการตาแห่งอินเดียในยุคบริติช ราช, ความหลากหลายของสีสัน, รูปทรง และความเป็นเลิศทางงานฝีมือ ได้รับการตีความและรังสรรค์ใหม่ ด้วยเอกลักษณ์ทางการออกแบบ “Tapestries of Dreams” คอลเลกชันประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2023 จากแบรนด์ Sirivannavari และ S’Homme จึงเป็นผลงานจุดประกายความฝัน และเย้ายวนใจน่าครอบครองอย่างแท้จริง

ออกแบบ

จากแรงบันดาลใจของงานหัตถศิลป์ที่ปรากฏบนเครื่องแต่งกายของทั้งมหาราชา และมหาราชินีระหว่างยุคบริติช ราช สีสันหลากเฉด, รายละเอียดหรูหรา, ลายทอสุดวิจิตรบรรจงบนแพรพรรณ ตลอดจนประติมากรรมสลักลายอันอ่อนช้อย ได้ถูกรังสรรค์ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยขึ้น ถ่ายทอดเป็นงานออกแบบร่วมสมัยของคอลเลกชันประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2023 ภายใต้ชื่อ “Tapestries of Dreams” ประกอบไปด้วยเครื่องแต่งกายสตรี SIRIVANNAVARI 39 ชุด และบุรุษ S’Homme 8 ชุด ทั้ง 47 ชุด นำโครงสร้างเสื้อผ้าตามธรรมเนียมการแต่งกายดั้งเดิมของชาวอินเดียเป็นต้นแบบ รองรับงานทอและงานปักหลากหลายเทคนิค เพื่อถ่ายทอดความอ่อนช้อยของลวดลายจากภาพวาดฝีพระหัตถ์ รวมถึงสัญลักษณ์อักษร S ประจำแบรนด์ ท่ามกลางความสดใสละลานตา ระหว่างโทนสีพาสเทลอ่อนโยน และเฉดสีรัตนชาติอันเจิดจรัส อย่างชมพูทับทิม, ม่วงอะเมธิสต์, แดงคาร์เนเลียน และดำนิลกาฬ ไปจนถึงทองคำสีเหลือง และทองคำสีกุหลาบ จากเนื้อผ้าที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ อาทิ ผ้าทอยกลายในตัว (ผ้าแจ็กการ์ด), ผ้าไหมซาติน, ผ้าไหมชีฟองเนื้อโปร่งบาง ไปจนถึงผ้ากำมะหยี่และมัวเรประกายระยับ

เสื้อกูรตะ (Kurta) หรือทูนิกไร้ปกตัวยาว หนึ่งในเครื่องแต่งกายประจำชาติของอินเดีย ได้รับการปรับโครงสร้างโดยนำแพตเทิร์นของ IRIS Jacket หนึ่งในงานออกแบบสัญลักษณ์ประจำแบรนด์มาใช้ โดย เล่นระดับความยาวจากเอวลอยไปจนถึงกรอมสะโพก ร่วมกับลูกเล่นปกเสื้อ ทั้งแบบไร้ปีกปกเสื้อตามแบบกูรตะ, คอปกตั้ง และคอวี สำหรับสวมเข้าคู่กับกางเกงสามส่วน, สี่ส่วน และกระโปรงหลากระดับความยาว ขณะที่ศิลปะการห่มส่าหรี (Saree) กลายเป็นลูกเล่นใหม่ของการจับเดรป ทั้งชุดกลางวันและชุดกลางคืน

อิทธิพลจากเครื่องแต่งกายของบริติช ราช ยังปรากฏอย่างต่อเนื่องในส่วนของชุดกลางคืน จากตัวเสื้อเปิดไหล่เดี่ยว คล้ายห่มส่าหรี มาสู่แถบผ้าคาดอก ไปจนถึงตะเบงมาน เผยช่วงเอวเพรียวบาง ด้วยการตัดเย็บผ้าเนื้อทิ้งตามแพตเทิร์นชุดยาวเข้ารูป ในขณะที่เดรสสั้นโดดเด่นสะดุดตาจากประกายระยิบระยับล้อแสงของงานปักขึ้นลวดลาย 3 มิติ และปักพู่ไหมเมทัลลิกระย้าทั่วทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็น คริสตัล, ลูกปัดหินสี, เลื่อมชนิดต่างๆ ตลอดจนงานถักมาคราเมที่ออกแบบลวดลายพิเศษ แต่ละมัดปมทวีความหรูหราจากผ้าไส้ไก่หลากเนื้อ เล่นสี และเส้นใยราฟเฟีย

ส่วนเครื่องแต่งกายชาย S’Homme โครงสร้างทรงชุดเนห์รุ กูรตะ (Nehru Kurta) ต้นแบบแจ็กเกตซาฟารี ถูกปรับสัดส่วนยืดความยาวไปเป็นเสื้อนอกสำหรับสวมเดี่ยว, สวมกับเสื้อยืดตัวเก่ง หรือเสื้อเชิ้ตผ้าไหมปักด้ายเดินลาย และปักวัสดุหรูหรา ลวดลายแบบอินเดียประยุกต์ แมตช์เข้าคู่กับกางเกงขายาว ทั้งแบบทรงสอบและทรงหลวม

“อารมณ์ฤดูร้อน” บรรดาชุดชาย หาด และชุดลำลอง โดดเด่นด้วยผ้าลายพิมพ์ประจำฤดูกาล ที่นำภาพวาดฝีพระหัตถ์ อาทิ ภาพต้นมะพร้าว, ดอกไม้นานาพรรณ, เสือ, นกยูง, ผลทับทิม และนกหลากชนิดวางลวดลายสดใสและอ่อนหวานในเฉดสีพาสเทลสบายตา สะท้อนบรรยากาศของฤดูกาลอย่างชัดเจน เสื้อคลุมคัฟทานตัวยาวตัดเย็บจากผ้าเนื้อพลิ้วบางเบา, กระโปรงกางเกงความสั้นระดับมินิ และชุดว่ายน้ำสไตล์สปอร์ตแขนยาวเสริมไหล่ ที่สามารถใส่เป็นบอดี้สูทได้อย่างแยบคายชุดว่ายน้ำทูพีซกับลูกเล่นจับเดรป เผยเสน่ห์เย้ายวนของทรวดทรง

สำหรับคอลเลกชันเครื่องประดับประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2023 ถ่ายทอดความวิจิตรตระการตาดุจอัญมณีแห่งมหารานี ตั้งแต่สร้อยคอยาว และสร้อยคอสั้น, ต่างหูแบบติดหู และแบบสายระย้า รองรับงานถักลายแบบอินเดียด้วยวัสดุคริสตัล, แหวนร้อยสายสร้อยข้อมือจำลองแบบลายเฮนนา, แหวนปลอกมีดเฉดทองคำสีกุหลาบ ตลอดจนสร้อยประดับเรือนผม

ในส่วนของกระเป๋า สร้างสรรค์รูปแบบต่างสไตล์ในวัสดุหลากหลาย อาทิ กระเป๋าถักสานด้วยเส้นใยราฟเฟีย ทั้งแบบกระเป๋าหนีบ (Clutch) และกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหูหิ้วคู่ (Tote) ต่างขนาดสำหรับชุดกลางวัน ในขณะที่ความหรูหรายามค่ำคืน มีดาวเด่นเป็นกระเป๋าถือเชือกถักเมทัลลิกใบเล็ก ประดับชาร์มตัวอักษร S และกระเป๋าทรงพีระมิดที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ตกแต่งสายโซ่ระย้า จัดว่าเด็ดประจำคอลเลกชันยังรวมถึงรองเท้าถักสานใยราฟเฟีย และรองเท้าปาร์ตี้จากวัสดุพีวีซีกับอะครีลิกเนื้อโปร่งใสเฉดสีสะท้อนแสง เติมความสมบูรณ์แบบด้วยแว่นกันแดดทรงแคตอายส์ดีไซน์ใหม่ 5 เฉดสี.

ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : ต่อเติมห้องแฟมิลี่ เชื่อมต่อสิ่งที่ขาดหายในบ้านเก่า

ต่อเติมห้องแฟมิลี่ เชื่อมต่อสิ่งที่ขาดหายในบ้านเก่า

ต่อเติมห้องแฟมิลี่

Family Room หลังบ้าน

ต่อเติมห้องแฟมิลี่
หลายปีมานี้เราพบว่าประเทศออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในที่ที่มีโปรเจ็คการปรับปรุงและต่อเติมมากทีเดียว อาจจะเป็นเพราะบ้านของคนรุ่นก่อน ๆ ค่อนข้างกว้าง และมีเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมที่หน่วยงานรัฐสนับสนุนการอนุรักษ์ เมื่อคนรุ่นหลังเข้ามาอยู่อาศัยจึงไม่ค่อยรื้อทำใหม่ (นอกจากจะสุดทางแล้วจริงๆ ) อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียเองก็พบปัญหาที่ว่าการต่อเติมนับครั้งไม่ถ้วนไม่ได้ศึกษาการเชื่อมต่อระหว่างอาคารเก่า-ใหม่ ส่งผลให้โซนใหม่ถูกตัดการเชื่อมต่อจากส่วนหน้าอาคาร และยังมองไม่เห็นถนนด้านหน้าด้วย โปรเจ็คนี้จึงเป็นหนึ่งตัวอย่างที่ดีในการแก้ปัญหาที่ว่านี้ครับ

ออกแบบ : Apto & Best Architects
ภาพถ่าย : Tom Ferguson
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

การจัดการกับจุดเชื่อมต่อระหว่างสิ่งใหม่และเก่าเป็นสิ่งที่ท้าทายเสมอ แต่โครงการนี้ทำให้เห็นว่าเราสามารถทำได้และดีด้วย Cut and Morph House ตั้งอยู่ท่ามกลางความหลากหลายของรูปแบบที่อยู่อาศัยใน Croydon ทางตะวันตกของซิดนีย์ จากภาพถนนเราจะเห็นบ้านเก่าเป็นอาคารก่ออิฐชั้นเดียวตามสมัยนิยมเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ทีมงานได้คงรูปแบบเดิมเอาไว้แล้วทาสี จัดภูมิทัศน์หน้าบ้านให้สดใสขึ้น นอกจากนี้ยังแก้ไขวิธีการต่อเติมบ้านให้ตอบสนองต่อตำแหน่งที่ตั้งและบริบท โดยปรับผังอาคารเดิมใหม่ให้เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่และต่อเติมด้านหลัง โดยทำโถงทางเดินเชื่อมต่อ วิธีนี้จะทำให้ส่วนใหม่-เก่ามีความต่อเนื่องและมีปฏิสัมพันธ์กับถนนได้เหมือนกัน

ส่วนต่อเติมใหม่ทางด้านหลังเปิดออกอย่างกว้างๆ ภายใต้หลังคาที่ลาดเอียง เพื่อส่งเสริมการเปิดรับสิ่งรอบข้างทั้งวิว แสง และลมได้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่อาคารเดิมขาดไป

ครัวและไอส์แลนด์ขนาดใหญ่

ซิงค์ล้างแบบสองหลุมบนไอส์แลนด์ครัวขนาดใหญ่

สำหรับเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน โซนใหม่ด้านหลังนี้จะเป็นเหมือน Family room รวมเอากิจกรรมสาธารณะที่ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานร่วมกันมาไว้ในจุดเดียว คือ ห้องครัวใหม่ขนาดใหญ่ที่มีไอส์แลนด์ไม้ท็อปลายหินอ่อนสวยงาม โต๊ะทานข้าว เลยไปด้านหลังสุดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนอ่านหนังสือ ชมวิว ที่เชื่อมต่อกับสนามหญ้าเขียวๆ หลังบ้าน วิธีนี้จะทำให้การใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัวมีความใกล้ชิดขึ้น

ในภาพรวมของอาคารจะเห็นว่าบ้านเปิดได้ทุกด้าน มีประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่ติดกับชานไม้เหมือนบ้านไม่มีผนัง นำแสงธรรมชาติและช่วงเวลาแสนสดชื่นในสวนมาสู่บ้าน รูปแบบโดยรวมกลายเป็นชุดของพื้นที่เชิงลบและบวก ซึ่งทั้งหมดเชื่อมต่อถึงกันและเกื้อหนุนกัน ในพื้นที่นี้คุณแม่สามารถทำกับข้าวไปด้วย ดูลูก ๆ เล่นสนุกที่สนามหญ้าไปด้วยได้ ในวันพิเศษส่วนต่อเติมนี้ยังรองรับงานปาร์ตี้ในสวนได้สบายๆ

ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อสวน

ต่อเติมหลังบ้านหลังคาเฉียงแบบโมเดิร์น

ต่อเติมหลังบ้านเปิดผนังโล่งกว้างสองด้าน

ในขณะที่ด้านหลังเปิดออกได้กว้างแต่รูปแบบและสัดส่วนยังคงเชื่อมต่อกับบ้านเดิม เพื่อให้รู้สึกถึงความลื่นไหลระหว่างบ้านที่มีอยู่และบ้านใหม่ได้อย่างง่ายดาย ในทางกลับกันแม้โซนนี้จะโปร่ง โล่ง สว่าง สัญจรง่าย แต่ก็เป็นส่วนตัวจากผู้คนที่สัญจรไปมา ทำให้ใช้ชีวิตทำกิจกรรมที่ชอบได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับสายตาของใคร

ห้องน้ำโทนสีขาว
ห้องอาบน้ำโทนสีขาวมี skylight
ห้องน้ำโทนสีขาวตกแต่งไม้
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : สำหรับการต่อเติมบ้านในต่างประเทศช่วงหลังๆ จะนิยมแยกฟังก์ชันส่วนตัวเอาไว้ที่บ้านเก่า เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน พื้นที่ต้อนรับแขก ที่ต้องการความสงบ ส่วนพื้นที่ต่อเติมจะใช้งานร่วมกันแบบสาธารณะ ทุกคนสามารถเข้ามาทำกิจกรรมประจำวันได้พร้อมๆ กัน เช่น นั่งเล่น ทานข้าว ทำอาหาร ปาร์ตี้ ที่ค่อนข้างมีความเคลื่อนไหวมาก ซึ่งการแบ่งสัดส่วนพื้นที่แบบนี้จะช่วยดึงสมาชิกออกจากห้องส่วนตัวออกมามีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น